"เลื่อมรุ้ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของอาหารจากเมืองผีA เชื่อกันว่า ความเร้นลับเหนือธรรมชาติย่อมจะมีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าในป่าเขาลำเนาไพร แม่น้ำลำคลอง และหาดทรายชายทะเล

          ในชนบทค่อนข้างเปล่าเปลี่ยว หรือแม้แต่ในเมืองที่แพรว พราวด้วยแสงสี อึกทึกครึกโครมด้วยเสียงเครื่องจักรเครื่องยนต์ และรถราน้อยใหญ่ทั้งหลาย เป็นศูนย์กลางของความศิวิไลซ์แค่ไหน...ก็ไม่วายที่จะเกิดเรื่องเร้นลับน่าอัศจรรย์ และพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้

          ดิฉันมีเรื่องน่าสยองที่เกิดขึ้นกลางวันแสกๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ

          บริษัทของเราตั้งอยู่ในตึกชั้น 16 ย่านดาวน์ทาวน์ที่เจริญทางเทคโนโลยีสุดๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก็ยังอุตส่าห์เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกขึ้นมาจนได้

          เมื่อตอนต้นปี มีพนักงานสาวใหญ่บริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ชั้น 7 หัวใจวายในลิฟต์ จะมีสาเหตุมาจากเบาหวานกำเริบจนช็อก หรือเพราะแพ้ยาลดความอ้วนก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ทำให้คนที่ต้องใช้ลิฟต์เกิดอาการสะดุ้งผวาไปตามๆ กัน

          แต่ส่วนมากก็ไม่มีใครพบเห็นเหตุการณ์สยองขวัญอะไร จนกระทั่งอาการปอดกระเส่า หรือกลัวผีค่อยๆ จางไป

          น้าปอง-แม่บ้านหุ่นตุ้ยนุ้ยของบริษัทเราโดนผีหลอกในลิฟต์สยองขวัญนั่นเอง!

          เธอเล่าว่า วันนั้นออกไปสั่งหอยทอดกับผัดไทยมาให้พนักงานหลายคน ขณะที่หอบหิ้วอาหารกลางวันถุงใหญ่ขึ้นลิฟต์มาก็รู้สึกเสียวสันหลังชอบกล แต่ยังอุ่นใจที่มีคนอื่นๆ อยู่ในลิฟต์ด้วย...จนก่อนจะถึงชั้น 16 เขาออกไปกันหมด เหลือเธออยู่คนเดียว...กำลังจะถึงจุดหมายอยู่แล้วเชียวก็เกิดเรื่องสยองขึ้นก่อน

          จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างๆ ตัวแข็งทื่อ จ้องมองไปข้างหน้านิ่งๆ ทำให้น้าปองขนลุกซ่า หันขวับไปมองอย่างลืมตัว

          พนักงานสาวใหญ่ที่หัวใจวายตายไปแล้วนั่นเอง!

          โลกหมุนเคว้งคว้างไปหมด ใบหน้าขาวซีดค่อยๆ หันมามอง น้าปองร้องกรี๊ดๆ จนประตูลิฟต์เปิดพอดี...เธอวิ่งถลาเข้ามาล้มแผละ ถุงอาหารหล่นจากมือ ห่อหอยทอดกับผัดไทยกระจายเกลื่อน...ปล่อยโฮออกมาจนพวกเราตกอกตกใจไปตามๆ กัน

          คราวนี้จะเข้าลิฟต์ไม่ว่าขึ้นหรือลงก็ต้องรอคนอื่นๆ ด้วย กลัวว่าจะเจอภาพสยองแบบน้าปองน่ะสิคะ

          ในที่สุดก็เกิดเรื่องขนหัวลุกขึ้นอีกครั้งจนได้!

          น้าปอง-ลงลิฟต์ไปตอนบ่ายสองโมงเศษอย่างรีบร้อนจนลืมเรื่องกลัวผี เพื่อไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวเจ้าอร่อยให้หัวหน้า คือพี่พรรณราย-เธอทำงานเพลินจนลืมอาหาร เกือบหนึ่งชั่วโมงน้าปองถึงได้นำก๋วยเตี๋ยวมาแกะถุงใส่ชามพร้อมกับเครื่องปรุงมาให้เรียบร้อย

          พอพี่พรรณรายเงยหน้าขึ้นมอง ก็ปรากฏว่าน้าปองออกจากห้องไปโดยไม่พูดจาแม้แต่คำเดียว แถมปิดประตูห้องเรียบร้อยอีกด้วย!

          จนกระทั่งมีโทรศัพท์ขึ้นมาบอกว่าน้าปองเป็นลมตายในลิฟต์ชั้นล่าง มือยังกำแบงก์ใบละหนึ่งร้อยบาทเอาไว้แน่น

          ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อลิฟต์เปิดออกก็มีผู้เห็นเธอนอนฟุบ งอเข่า มือกำเกร็ง นัยน์ตาเหลือกลานเบิกโพลง... แสดงว่าเธอยังไม่ได้ออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้หัวหน้าน่ะสิคะ...แล้วจะเอากลับขึ้นไปใส่ชามในห้องเครื่องดื่มทางหลังตึกได้ยังไงกัน? แถมยกก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยมาให้หัวหน้าอีกต่างหาก

          พี่พรรณรายหน้าขาวซีด ทำท่าพะอืดพะอมบอกไม่ถูก ฝืนยิ้มทั้งๆ ที่หน้าตาคล้ายจะร้องไห้ บอกว่าน้าปองเอาก๋วย เตี๋ยวมาให้ก่อนจะลงไปข้างล่าง?

          ถ้าเช่นนั้น น้าปองจะกำแบงก์ร้อยไว้ในมือทำไม?

          อาจจะมีเหตุผลว่า คนอื่นจะวานน้าปองลงไปซื้อของอีก แต่ถามใครก็ปฏิเสธทั้งนั้น...โดยเฉพาะเหตุผลสำคัญก็คือ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 40 บาท แต่น้าปองไม่ได้ส่งเงินทอน หรือแม้แต่วางบนโต๊ะให้หัวหน้า ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อน

          พี่พรรณรายอุตส่าห์หาทางออกให้ตัวเองด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า...น้าปองอาจจะลืมไป

          เพื่อไม่ให้ปัญหาคลุมเครือหรือคาใจพวกเรา นายอั้น-พนักงานใหม่ต้องรับหน้าที่ไปถามแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวว่าน้าปองมาซื้อ "เล็ก, ชิ้น, ไม่งอก" ตอนเวลาเท่านั้นเท่านี้หรือเปล่า?

          ไม่ช้านายอั้นก็หน้าซีดปากสั่นเขาบอกเสียงแหบแห้งว่า...วันนี้ยังไม่เห็นหน้าน้าปองสักครั้งเดียว! แล้วก๋วยเตี๋ยวชามนั้นมาจากไหน?

          พี่พรรณรายวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ...เป็นใครก็คงคลื่นไส้เหมือนกันเมื่อรู้ว่าได้เปิบพิสดารโดยไม่ได้ตั้งใจ ...กินก๋วยเตี๋ยวจากเมืองผีน่ะสิคะ!!