สนามเป้าเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมานี่เอง. ...
เข้าซอยไปราว 100 เมตรเศษ อยู่ทางซ้ายมือ
ด้านหน้ามีรั้วและสนามหน้าตึกสามชั้น รับตรวจรักษาโรคต่างๆ
เหมือนโรงพยาบาลทั่วไป คนไข้ก็เข้าออกกันหนาตา
รวมทั้งญาติมิตรที่ไปเยี่ยมคนป่วยต้องนอนโรงพยาบาล
จู่ๆ โรงพยาบาลนี้ก็เลิกกิจการไปโดยที่ไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัด... .
ลือกันว่าขาดทุนบ้าง ขาดแพทย์และพยาบาลบ้าง เจ้าที่แรงบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือ
กลายเป็นโรงพยาบาลร้าง ประตูรั้วปิดตาย ไม่ช้าก็มีเถาไม้เลื้อยพันขึ้นมารกรุงรัง
ยามค่ำคืนคนที่ผ่านไปมามองเห็นตึกร้าง มีแต่ความทึบทึมเปล่าเปลี่ยว
นอกจากจะเกิดความวังเวงใจแล้วยังรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบไปตามๆ กัน
คนแถวนั้นที่ผ่านไปมาตอนกลางคืน เล่าว่า... .
ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องครวญครางโหยหวนน่าขนลุกดังมาจากตึกชั้นบน
อาหมู - คนรับเหมาก่อสร้างเดินกลับบ้านมาพร้อมกับเมียชื่อเจ๊แดง
บอกว่าได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เยือกเย็นมาจากตึกร้าง
พอหันไปมองอย่างลืมตัวก็เห็นผู้หญิงยืนอุ้มลูกอยู่ที่หน้าต่างชั้น 2
เล่นเอาวิ่งแข่งกันเป็นลมพัด...เจ๊แดงจับไข้อยู่หลายวัน
สบถสาบานว่าจะไม่ยอมเดินผ่านโรงพยาบาลผีสิงตอนกลางคืนอีกต่อไป
น้าวีระ - เซลส์แมนสบถสาบานว่า ขนาดนั่งตุ๊กตุ๊ก เข้าซอยมาแท้ๆ
ยังเห็นรถเข็นคนไข้เปล่าๆ แล่นไปมาอยู่หน้าตึกร้าง
ไม่มีทั้งคนนั่งและคนเข็น หมาเจ้ากรรมก็โก่งคอหอนโหยหวนขึ้นทั้งซอย
คนขับตุ๊กตุ๊กคงจะเห็นเหมือนกันเลยห้อตะบึงจนเลยทางเข้าบ้าน
น้าวีระสั่งจอด พอโดดลงมาคนขับก็บึ่งรถไปโดยไม่แยแสค่าโดยสาร...ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน
ป้าณี - แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวที่ก้นซอยอารีสัมพันธ์ 1 เล่าว่า
ออกไปซื้อของที่ตลาดสะพานควายตอนเช้ามืด พอเดินผ่านโรงพยาบาลร้างที่ตั้งตะคุ่ม
อยู่ในความมืดสลัว หันไปมองโดยไม่ตั้งใจก็เห็นไฟสว่างพรึ่บบนชั้น 2 กับชั้น 3
ที่เป็นห้องพักคนไข้ รวดเดียว ป้าณีวิ่งไม่คิดชีวิตไปถึงถนนใหญ่...
ตั้งแต่นั้นมาจะไม่ยอมออกไปซื้อของก่อนสว่างเป็นอันขาด
"น้าอ้วน" อยู่ใกล้ๆ บ้านป้าณี เป็นสาวโสดฐานะดี มีอาชีพออกเงินกู้ อยู่กับแม่ที่ชรามากแล้ว
เจอฤทธิ์เดชของปีศาจโรงพยาบาลร้างรุนแรงยิ่งกว่าทุกคน ขนาดเอาชีวิตเป็นเครื่องสังเวย!
วันนั้น น้าอ้วนไปเก็บดอกเบี้ยไปถึงซอยอารี ซอยสีฟ้า ลูกหนี้ชวนไปดื่มเบียร์ฟังเพลงที่คาเฟ่
หน้าโรงหนังนิวยอร์ก...ติดลมจนเกือบ สองยาม ถึงได้เดินเซนิดๆ มาขึ้นแท็กซี่แยกกันกลับบ้าน
แทนที่จะเข้าซอยอารี เลี้ยวซ้ายผ่านโรงแรมมายเฮ้าส์ไปอารีสัมพันธ์ 1
จะได้ไม่ผ่านดงผีดุ แต่กลับเลยไปเข้าทางซอยราชครูจนได้. ...
ท่ามกลางบรรยากาศเยือกเย็นชวนให้วังเวงใจ
แท็กซี่เจ้ากรรมคันนั้นเกิดเบรกเอี๊ยดที่หน้าประตูรั้วสนิมเขรอะดื้อๆ
เล่นเอาน้าอ้วนแทบสร่างเมา ชะโงกหน้าเข้าไปถามว่าจอดที่นี่ทำไม?
คำตอบเล่นเอาขนหัวลุกพรึ่บทันที
"ก็รถพยาบาลเขาจะเลี้ยวเข้าไป พี่ไม่เห็นรึ?"
"รถผีสิงน่ะซิ..." น้าอ้วนหลุดปากได้แค่นั้นก็ลิ้นแข็ง เบิกตาโพลงบัดดล
นรกเป็นพยาน! รถตู้สีขาวคันหนึ่งกำลังเลี้ยวช้าๆ ผ่านหน้ารถแท็กซี่
แล่นทะลุประตูเหล็กที่มีไม้เลื้อยรุงรังเข้าไปในโรงพยาบาลร้าง...
ก่อนจะจาง หายไปต่อหน้าต่อตา
น้าอ้วนร้องด่าอย่างลืมตัว รู้สึกเหมือนมีความมืดสาดพรึ่บเข้ามาเต็มหน้า
แท็กซี่ร้องเฮ้ย! เข้าเกียร์ออกรถมือไม้สั่น ขับพรวดพราดไปจอดหน้าซอย
บอกว่าไม่ยอมเข้าไปเด็ดขาด เดี๋ยวจะบึ่งตรงไปออกทางคลองประปา
น้าอ้วนจะอ้อนวอนเท่าไหร่ก็ไร้ผล
เดินร้องไห้ซมซานมาถึงบ้านก็เป็นลมไป รุ่งขึ้นเพื่อนบ้านได้ข่าวก็ไปเยี่ยม
น้าอ้วนเล่าเรื่องขนหัวลุกให้ฟังกระท่อนกระแท่น เดี๋ยวหัวเราะร่วน
เดี๋ยวก็ร้องไห้โหยหวนเยือกเย็นไปถึงหัวใจของทุกคนที่ได้ยิน
อีกราว 3-4 วันต่อมา น้าอ้วนก็ผูกคอตายในห้องน้ำชั้นล่าง
ไม่มีใครทราบสาเหตุแท้จริงว่าเป็นเพราะอะไรแน่...แต่ก็ลือกันว่าโดนวิญญาณ
ร้ายมาเอาชีวิตเพราะปากคอร้ายกาจของแกเอง
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น